นี่คือภาพยนตร์ที่ได้รับรางวัลสิงโตทองคำ
รางวัลสูงสุดจากเทศกาลหนังเวนิซ 1995 (Golden Lion)
(บทความนี้ตัดมาจาก..
http://ksamphan.wordpress.com/2005/12/12/cyclo-โศกนาฏกรรมของความเป็นเมือง ..ขอขอบคุณท่านผู้เขียนมา
ณ.ที่นี้)
Cyclo:
โศกนาฏกรรมของความเป็นเมือง
เขียนโดย K.
Samphan
ถึงแม้เวียดนามจะเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่ยังคงปกครองด้วยระบอบสังคมนิยมและมีวีรบุรุษของประเทศเป็นอดีตผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์
แต่ดูเหมือนประวัติศาสตร์การต่อสู้อันโหดร้ายยาวนานของชนชาวเวียดนาม
เพื่อให้ได้มาซึ่งเอกราชและอิสรภาพ
ก็มิอาจต้านทานกับกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกได้
โดยเฉพาะการหลั่งไหลเข้ามาของค่านิยมและวัฒนธรรมตะวันตกอดีตศัตรูทางการเมืองของพวกเขาเอง
หลังจากหันมาใช้นโยบายปฏิรูป โด๋ยเม้ย
(Doi Moi) โดยเน้นการเปิดประเทศมากขึ้นตั้งแต่ปี 1986
เป็นต้นมา
เวียดนามก็อาจไม่ต่างไปจากประเทศในเอเชียอาคเนย์อื่นๆ
ที่เกิดการปะทะกันระหว่างวัฒนธรรมท้องถิ่นกับวัฒนธรรมที่มาจากภายนอก
จนเกิดเป็นวัฒนธรรมผสมที่สอดคล้องกลมกลืนกันบ้าง
ขัดแย้งลักลั่นกันบ้าง
แล้วแต่เงื่อนไขที่แต่ละประเทศต้องเผชิญ
แต่สิ่งหนึ่งที่อาจไม่แตกต่างกันมากนัก
โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนาและด้อยพัฒนาที่รับแนวทางการพัฒนาประเทศจากตะวันตกก็คือ
กระบวนการสร้างความเป็นเมือง (urbanization)
ที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงและส่งผลกระทบต่อสังคมดั้งเดิมอย่างรุนแรง
ท่ามกลางตึกสูง
ยานพาหนะขวักไขว่บนท้องถนน
แหล่งจับจ่ายสินค้ามากมายหลากหลาย
และผู้คนใบหน้าเฉยเมยแล้ว สิ่งที่อยู่คู่กับเมืองก็คือ
สภาพชีวิตอันแร้นแค้นของคนจนในเมือง
ทำไมเมืองต้องมีภาพการต่อสู้ดิ้นรนของคนทุกข์ยากพ่วงท้ายอยู่ด้วยเสมอ?
ตราน อาน ฮุง (Tran Anh Hung)
ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวเวียดนามที่ไปเติบโตในฝรั่งเศส
อาจไม่ได้ตั้งใจที่จะตอบคำถามดังกล่าวมากเท่ากับการพยายามเสนอภาพชีวิตอันแร้นแค้นของคนเดินถนนในไซ่ง่อน
(นครโฮจิมินห์เมืองหลวงของเวียดนามในขณะนั้น )
อย่างตรงไปตรงมา
ในฐานะชาวเวียดนามคนหนึ่งที่ยังรักและอาลัยในมาตุภูมิของตน
หลังจากที่ The Scent of Green Papaya (1993)
ภาพยนตร์เรื่องแรกของเขา
นำเราไปสัมผัสกับกลิ่นอายความอบอุ่น เรียบง่าย
และงดงามของไซ่ง่อนในทศวรรษ 1950-1960 สองปีต่อมา Cyclo
(1995)
ก็นำเรากลับสู่ความจริงอันโหดร้ายของไซ่ง่อนในช่วงปลายศตวรรษที่
20
Cyclo (ซิ-โคล)
เป็นศัพท์ที่ชาวฝรั่งเศสยุคอาณานิคมใช้เรียกคนถีบจักรยานสามล้อรับจ้างชาวเวียดนามซึ่งเป็นอาชีพของตัวละครเอกในเรื่อง
เขากำพร้าพ่อแม่
และอาศัยอยู่กับปู่ที่มีอาชีพเติมลมรถจักรยานร่วมกับพี่น้องอีกสองคน
พี่สาวและน้องสาวของเขาต้องทำงานตอนกลางคืนและไปเรียนในตอนกลางวัน
ฉากหนึ่งตอนต้นเรื่อง
ทั้งคู่กำลังทำงานอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง
น้องสาวกำลังรับจ้างขัดรองเท้า
ขณะที่พี่สาวก็กำลังขะมักเขม้นปรุงอาหารอยู่หน้าเตา
มีชายขาพิการสองคนเดินเข้ามาในร้าน คนหนึ่งสะพายกีต้าร์
อีกคนถือเครื่องเคาะจังหวะ
ทั้งสองเดินเข้ามาหยุดอยู่กลางร้าน
และเริ่มต้นบรรเลงบทเพลงในท่ามกลางเสียงพูดคุย
บนฝั่งแม่น้ำสายเก่า ใบไม้และดอกไม้เหี่ยวเฉา
สุริยาไม่ฉายแสง เยือกเย็น หนาวสั่น
ตอนผมยังเยาว์ ผมจดจำคุณได้ ผมจดจำภาพขาวดำของคุณได้
คุณมองผม สุกสว่าง อ่อนละมุน
พร้อมๆ กับเสียงดนตรีบรรเลง
ตรานก็อาศัยจังหวะนี้ถ่ายทอดบรรยากาศของร้านอาหาร
พี่สาวที่กำลังยกแขนขึ้นปาดเหงื่อบนใบหน้า
และน้องสาวที่กำลังยกแขนขึ้นปิดปากหาวนอน ข้างๆ
เธอมีเด็กขัดรองเท้าอีกคนหนึ่งกำลังนอนหลับอยู่
ทั้งภาพและเสียงที่ถ่ายทอดออกมา
นำจินตนาการของผู้ชมเดินทางไปไกล เสียงดนตรีจากชายพิการ
เสียงพูดคุยรื่นรมย์ของคนที่กำลังกินอาหาร
เด็กเร่ร่อนขอทาน หรือหญิงชราที่ขอร้องให้ช่วยซื้อของเล็กๆ
น้อยๆ ที่เธอเสนอขาย
จะปฏิเสธได้อย่างไร
ว่าไม่ได้เป็นภาพที่เราคุ้นเคย
เรารู้จักตัวละครเอกในชื่อ Cyclo
วันหนึ่งรถสามล้อของเขาถูกขโมย
เขาจึงจำเป็นต้องทำงานอื่นเพื่อชดใช้ให้กับนายหญิง
ซึ่งเป็นเจ้าของรถสามล้อเช่า ภายใต้การกำกับดูแลของ Poet (เหลียงเฉาเหว่ย)
นักเลงที่ทำงานให้กับเธอ
ในช่วงนี้เองที่ Cyclo
ได้เข้าไปเกี่ยวพันกับโลกของอาชญากรรมและยาเสพติด
จนกระทั่งเรื่องราวดำเนินไปจนสุดแดนของเขตศีลธรรม
เมื่อเขาได้รับคำสั่งให้ฆ่าคน
สำหรับ Poet แม้จะอยู่กันคนละฐานะกับ Cyclo
แต่เขาก็ต้องเผชิญกับปัญหาไม่แตกต่างกัน ครอบครัวของ Poet
อาศัยอยู่ในชุมชนแออัด แวดล้อมไปด้วยกองขยะและดงน้ำครำ
เราแทบจะไม่รู้รายละเอียดในชีวิตของเขา
ยกเว้นเรื่องที่เขามีปัญหากับพ่อ
และเหตุการณ์ในวัยเด็กน่าจะเป็นปมปัญหาใหญ่ในชีวิตของเขา
ภายนอกเขาอาจดูนิ่งขรึม
แต่เราไม่แน่ใจว่าภายในเขาบอบช้ำเพียงใด
ในขณะที่ Cyclo ยอมรับในชะตากรรมที่ตัวเองไม่อาจหลีกเลี่ยง
และในชั่วขณะหนึ่ง
เขาก็ภาคภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองทำถึงขนาดขอเข้าร่วมแก๊งกับ
Poet แต่สำหรับ Poet แล้วกลับไม่เป็นเช่นนั้น
เขากำลังสับสนอย่างหนักกับสิ่งที่ตัวเองทำอยู่
โดยเฉพาะกับพี่สาวของ Cyclo (แสดงโดยภรรยาของตราน)
ซึ่งยอมเป็นโสเภณีตามที่เขาขอร้อง และเมื่อเนิ่นนานเข้า
ดูเหมือนเขาจะไม่มีทางออก
ตรานพยายามเสนอภาพชีวิตของไซ่ง่อนให้ผู้ชมได้รับรู้
โดยไม่พยายามตัดสินว่าสิ่งที่ดำเนินไปนั้นถูกหรือผิด
ความสับสนวุ่นวายบนท้องถนน
อาคารสูงที่เมื่อมองจากภายนอกในตอนกลางคืนจะเห็นเป็นช่องสี่เหลี่ยมสีนีออน
กลุ่มอิทธิพลคุมรถสามล้อในแต่ละเขต
แก๊งล้วงกระเป๋าคนที่ไปไหว้พระ นักเลงยกพวกตีกันบนท้องถนน
โสเภณี ยาเสพติด ความยากจน
หรือแม้กระทั่งภาพของห้องเรียนในระบบการศึกษาสมัยใหม่
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นในไซ่ง่อนยุคปัจจุบัน
และกำลังจะลุกลามไปสู่เมืองอื่นๆ ของเวียดนาม
แม้ว่า Cyclo จะเป็นเรื่องราวของอาชญากรรมและความรุนแรง
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็แฝงไว้ด้วยความนุ่มนวลตามวิถีของชาวตะวันออก
เนื้อเรื่องของ Cyclo
นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากเรื่องเล่าของหญิงชราสองคนที่ถูกคุมขังและทารุณในระหว่างสงครามทั้งกับฝรั่งเศสและสหรัฐฯ
ซึ่งตรานกล่าวว่า
สิ่งที่เขาประทับใจที่สุดก็คือวิธีการที่หญิงชราเล่าถึงประสบการณ์ในอดีตด้วยความนุ่มนวล
ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาพยายามจะสร้างขึ้นในภาพยนตร์เรื่องนี้
ข้อมูลประกอบการเขียน
เขียน ธีระวิทย์, เวียดนาม: สังคม เศรษฐกิจ ความมั่นคง
การเมือง และการต่างประเทศ, สถาบันเอเชียศึกษา
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2542
ภัทรวดี สุพรรณพันธุ์, หนังเวียดนามของ Tran Anh Hung
ตอนที่ 1 และ 2 ใน สารคดี ฉบับเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน
2547
หนังตัวอย่าง :
รางวัล :
4 wins.
Ghent International Film Festival 1995
Venice Film Festival 1995
Storyline:
A young man who struggles through life by earning some
money with his bicycle-taxi in Saigon (Ho Chi Minh city)
gets contact to a group of criminals. They introduce him
to the mafia-world of drugs and crime.
Cyclo (Vietnamese: Xích Lô) is a 1995 film by Vietnamese
director Tran Anh Hung (who had made The Scent of Green
Papaya). It stars Lê Văn Lộc, Tony Leung Chiu Wai and
Trần Nữ Yên Khê.
The film was awarded the Golden Lion at the 52nd Venice
International Film Festival.
User Reviews
Just a masterpiece of cinematography
31 August 2001 | by Michael-269 (Germany)
I''ve seen this movie for several times, and can''t get
enough of it. There are a lot of reviews here, I mostly
can agree with (redanit and others). So I will just add
some thoughts of mine. The camerawork, composition,
acting and plot(s) are all absolutely exceptional, the
(Vietnamese) cultural aspects about family
(father-mother-child) are omni-present (mentioned by
redanit, also "the egg"); HCMC is a really
captivating,noisy and ugly city in this movie, but Tran
Anh Hung also shows the "other side" of Vietnam in his
new one, "À la verticale de l''été", again on family and
relation. Tran Anh Hung has created a real masterpiece
with Cyclo (Xich-Lo), worth 10 for sure ! See it and you
will know why Vietnam has banned this one !